พระพุทธรูป ปางลีลา

พระพุทธรูป ปางลีลา

ปาง

พระพุทธรูปปางลีลา ที่งดงามที่สุด

ลักษณะ

เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริด สมัยสุโขทัย กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปปางลีลา ที่งดงามที่สุด
งดงาม
- ด้วยเส้นสายลาดปั้นที่อ่อนช้อย
- ด้วยพระภูษาที่แนบพระองค์
- ด้วยการบรรยายถึงพุทธลักษณะของมหาบุรุษ ๓๒ ประการ (มหาปุริสลักษณะ)

สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงอธิบายว่า
ได้นำมาจากวัดราชธานี (วัดเก่าริมแม่น้ำยม) คติและสัญลักษณ์ของพระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อพิจารณาที่พระหัตถ์ข้างซ้ายที่ยกขึ้นเสมออก ปลายนิ้วจีบเป็นวงกลม น่าจะหมายถึงการแสดงธรรมที่หมายถึงธัมมจักกัปปวัตนสูตร ต่างจากพระพุทธรูปปางอื่นที่ยกพระหัตถ์ขวา

ศาตราจารย์ศิลป์ พีระศรี กล่าวว่า เป็นพระพุทธรูปปางลีลาที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นกันมา

ประวัติ

สำริด ลงรักปิดทอง ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ ๑๙- ๒๐ พบในเมืองโบราณสุโขทัย นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร ก่อนนำมาจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๐๖ พระพุทธรุปแสดงอิริยาบถเดินโดยพระบาทซ้ายก้าวไปข้างหน้า พระบาทขวายกส้นพระบาทขึ้นเล็กน้อย ประทับบนฐานรูปดอกบัวหงาย รองรับด้วยฐานแปดเหลี่ยม ยกพระหัตถ์ซ้ายขึ้นในท่าประทานอภัย พระหัตถ์ขวาทอดลงข้างพระวรกาย พระพุทธรูปลีลานับเป้ฯงานสร้างสรรค์ประติมากรรมอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของศิลปะสุโขทัย เป็นการสร้างสรรค์พุทธศิลป์ตามคตินิยมเรื่อง “มหาบุรุษลักษณะ”ที่มีความงามตามอุดมคติอย่างแท้จริงโดยมีลักษณะพระพักตร์รูปไข่ พระเนตรเรียวเหลือบต่ำ พระขนงโก่ง พระนาสิกโด่งงุ้ม พระโอษฐ์เรียวเล็กบาง พระหนุเป็นปม พระรัศมีรุปเปลวเพลิง ขมวดพระเกศาขนาดเล็ก พระอังสาใหญ่ บั้นพระองค์เล็ก ครองจีวรห่มเฉียงบางแนบพระวรกาย สังฆาฏิยาวจรดพระนาภี ปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบ
     พระพุทธรูปลีลาลอยตัวนี้น่าจะหมายถึง พุทธประวัติตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากพระพุทธองค์โปรดพระพุทธมารดาแล้ว พระองคืเสด็จกลับลงมายังโลกมนุษย์ โดยเสด็จลงมาทางบันไดแก้วซึ่งอยู่ระหว่างที่กลางพระอินทร์และพระพรหม ลงมาตามบันไดทองและบันไดเงิน ซึ่งเมื่อสร้างเป็นประติมากรรมลอยตัวจึงปรากฏเพียงรูปของพระพุทธองค์ในลักษณะก้าวเดินโดยไม่มีฉากประกอบ นอกจากนั้นในการสร้างพระพุทธรูปลีลาลอยตัว ยังแสดงถึงเทคนิคขั้นสูงในการหล่อโลหะในช่วงยุคทองของการสร้างสรรค์ศิลปกรรมของสุโขทัยสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทอีกด้วย

การตีความทางสัญญลักษณ์

การตีความเชิงสัญลักษณ์: พระพุทธรูปลีลา วัดเบญจมบพิตร

พระพุทธรูปลีลาองค์นี้ไม่เพียงเป็นงานศิลปะชั้นสูงของสุโขทัย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์เชิงวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ ที่ลึกซึ้งในหลายระดับ ดังนี้:

---

1. สัญลักษณ์แห่ง "พุทธะผู้ดำเนิน"

การแสดงอิริยาบถ "ก้าวพระบาท" และ "พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นประทานอภัย" ต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่มักใช้พระหัตถ์ขวา สื่อถึงพระพุทธเจ้าผู้ ไม่หยุดนิ่ง ดำเนินไปเพื่อโปรดสัตว์ และแสดงธรรมไม่เว้นแม้แต่เทวโลก (พุทธประวัติตอนเสด็จลงจากดาวดึงส์)
???? จึงเป็น **สัญลักษณ์แห่งพุทธธรรมที่เคลื่อนไหวแฝงพลังแห่งการแผ่เมตตาอย่างไม่จำกัด

2. สัญลักษณ์ของ “มหาบุรุษลักษณะ”
องค์ประกอบทุกส่วนล้วนสะท้อน คติอุดมคติของพระพุทธเจ้าตามลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ เช่น พระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่ง พระนาสิกงุ้ม พระหนุเป็นปม เป็นต้น
???? นี่คือการ ยกระดับพุทธศิลป์จากรูปธรรมสู่จินตภาพสูงสุด เป็นสื่อถึง "พุทธภาวะ" มากกว่าร่างกายธรรมดา

3. สัญลักษณ์แห่งความงามในอุดมคติแบบไทย

เส้นสายที่อ่อนช้อย พระภูษาที่แนบเนื้อ ฐานบัวหงาย แสดงถึงความงามที่ **ผสมกลมกลืนระหว่างศรัทธา ความประณีต และจินตนาการ** จนได้รับการยกย่องว่า “เป็นพระลีลาที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็น”
???? จึงเป็นต้นแบบของอุดมคติด้านสุนทรียะในศิลปะไทย

4. สัญลักษณ์แห่งชาติ

จากวัดโบราณริมแม่น้ำยม สู่การประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร และต่อมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ — พระพุทธรูปองค์นี้ได้กลายเป็น **วัตถุแทนคุณค่าทางศิลปะ จิตวิญญาณ และประวัติศาสตร์ร่วมของชาติ**

---

สรุป
พระพุทธรูปลีลาวัดเบญจฯ คือ ภาพแทนแห่งพระพุทธเจ้าในยามเคลื่อนไหว โปรดสัตว์อย่างไม่หยุดนิ่ง งดงามตามอุดมคติของมหาบุรุษ สะท้อนคติธรรม ศรัทธา และศิลป์แห่งยุคทองของสุโขทัย เป็นทั้งประติมากรรมและสัญลักษณ์ ที่รวมพลังศาสนา ศิลปะ และชาติไว้ในองค์เดียวอย่างกลมกลืน


แกลเลอรีรูปภาพ