พระวิหารสมเด็จ

พระวิหารสมเด็จ

ความเป็นมา

     พระวิหารสมเด็จ เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม สร้างขึ้นจากพระราชทรัพย์ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เมื่อ พ.ศ. 2445 ตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นหอพระธรรมประจำวัด พระราชทานนามว่า “หอพุทธสาสนสังคหะ” ครั้นต่อมาในปี พ.ศ.2448 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผนวกกิจกรรมของหอพุทธสาสนสังคหะเข้ากับหอพระสมุดดวชิรญาณ ดังนั้น ภายในหอพุทธสาสนดังคหะจึงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปตู้พระธรรม คัมภีร์ พระไตรปิฎก เครื่องลายครามเป็นต้น

สถาปัตยกรรม

               ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นอาคารสองชั้นจัตุรมุข ที่หน้าบันซุ้มประตูและซุ้มหน้าต่างเป็นปูนปั้นลายห้านขดปิดทองประดับกระจก มีตรา
พระปรมาภิไธย เนื่องจากพระวิหารหลังนี้ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชินีนาถ พระพันปีหลวง(พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี) ทรงสร้างโดยเสด็จพระราชกุศล พระวิหารนี้ เดิมจะใช้เป็นหอธรรมสำหรับวัดเบญจมบพิตร ครั้งเมื่อมีการรวบรวมพระพุทธรูปมาจากหัวเมืองต่างๆ จำนวนมาก โดยในเบื้องต้นได้ประดิษฐานอยู่ในพระระเบียงคดรอบพระอุโบสถต่อมาพื้นที่คับแคบลง พระวิหารสมเด็จแห่งนี้จึงเป็นที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูป รวมทั้งโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่สำคัญแห่งหนึ่งภายในวัดเบญจมบพิตรฯ
       ชั้นล่างของพระวิหารสมเด็จ เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดย่อมกว่าพระพุทธรูปที่คัดเลือกไป ประดิษฐานในพระระเบียงคด ทั้งนี้พระพุทธรูปเหล่านี้ได้มาจากการรวบรวมจากวัดในกรุงและหัวเมืองต่างๆ โดยล้วนเป็นพระพุทธรูปซึ่งมีพุทธลักษณะและรูปแบบทางศิลปกรรมที่งดงาม เป็นตัวอย่างสำคัญในการศึกษาเรื่องพระพุทธรูปในแต่ละยุคสมัย ที่สำคัญคือพระพุทธรูปแบบศิลปะล้านนา สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์
              นอกจากนั้นยังมีการรวบรวมตู้พระธรรมหรือตู้ลายรดน้ำจำนวน 28 ใบ ซึ่งมีตู้ธรรมหลายลักษณะ ทั้งแบบฐานสิงห์ ขาตู้แบบเท้าสิงห์เหยียบ
ลูกแก้ว และตู้พระธรรมแบบขาหมู โดยตู้พระธรรมบางใบมีหลักฐานว่านาจากวัดในเขตกรุงเทพมหานคร อาทิเช่น วัดหงส์รัตนาราม ธนบุรี เป็นต้น
             ชั้นบนของพระวิหารสมเด็จ จัดแสดงโบราณวัตถุศิลปวัตถุ ประเภทเครื่องกระเบื้อง โดยมีการจัดชุดเครื่องถ้วยเคลือบลายคราม และเครื่องถ้วยเคลือบสีแดง เป็นชุดเครื่องบูชาอย่างโต๊ะจีน นอกจากนั้นยังมีการรวบรวมเครื่องแก้ว เครื่องอัฏญบริขาร ซึ่งล้วนเป็นสมบัติที่เก็บรักษาอยู่ ณ วัดเบญจมบพิตรตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทาน และพระบรมวงศานุวงศ์ประทานไว้ให้เป็นพุทธบุชา และเป็นเครื่องใช้ของสงฆ์ในวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
         พระฝาง เป็นพระพุทธรูปกะไหล่ทอง ปางมารวิชัยทรงมงกุฎ และเครื่องราชาภรณ์อย่างพระมหากษัตริย์ ฝีมือช่างอยุธยา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ให้อัยเชิญมาจากวิหารหลวง(วัดสวางค์) เมืองฝาง หรือสวางคบุรี จังหวัดอุตรดิตถ์ ลงมาประดิษฐานไว้ที่บุษบก มุขหน้า ชั้นบน ของพระวิหารสมเด็จ


แกลเลอรีรูปภาพ