ศาลาสี่สมเด็จ

ศาลาสี่สมเด็จ
ความหมายของชื่อและภูมิหลัง
“ศาลาสี่สมเด็จ” เป็นศาลาจตุรมุขสำคัญในเขตพุทธาวาสของวัดเบญจมบพิตร ชื่อศาลามาจากผู้ทรงอุปถัมภ์การก่อสร้างร่วมกัน ๔ พระองค์ (“สี่สมเด็จ”) โดยมีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงร่วมถวายพระราชทรัพย์กับสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอและสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอร่วมพระราชชนนีอีก ๓ พระองค์ ทั้งนี้ วัดเบญจมบพิตรได้รับการสถาปนาขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
ปีที่สร้างและวัตถุประสงค์เดิม
“ศาลาสี่สมเด็จ” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ โดยมีพระราชประสงค์ให้เป็น “ที่พักผ่อนของพระภิกษุสามเณร” ในบริเวณวัด ต่อมาวัดได้ใช้ศาลาเป็น “หอกลอง” ประจำวัด (ใช้ตีประกาศกิจวัตร/พิธีกรรม) ซึ่งสอดคล้องกับคำบอกเล่าของวัดในสื่อทางการของวัดเอง
สัญญลักษณ์ “สี่สมเด็จ” มีใครบ้าง ดูได้ที่ตราหน้าบันทั้งสี่ด้าน
“สี่สมเด็จ” และสัญลักษณ์หน้าบัน (ตราประจำพระองค์) ไว้ชัดเจน ดังนี้
๑. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว — “ตราพระเกี้ยว” (มงกุฎจุลจอมเกล้า)
๒. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล โสภณภควดี กรมหลวงวิสุทธิกษัตริย์ — “ตราจันทรมณฑล”
๓. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์ — “ตราจักร”
๔. สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช — “ตราดวงอาทิตย์ (สุริโยทัย)”
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
ศาลาสี่สมเด็จเป็น “ศาลาจตุรมุข” ก่ออิฐถือปูน พื้นปูศิลาจนถึงบันได หลังคากระเบื้องเคลือบ ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ (ลงรักปิดทอง) เชิงบันไดมีสิงห์หินสลัก รายละเอียดเชิงรูปแบบสอดคล้องกับสถาปัตยกรรมแบบไทยประเพณีในยุครัชกาลที่ ๕ ที่เน้นความวิจิตรและการใช้วัสดุสมัยใหม่ (เช่น หิน/ศิลา และกระเบื้องเคลือบ) ควบคู่กับชิ้นส่วนตกแต่งไทย
บทบาทปัจจุบันและ “หอกลอง” ของวัด
ปัจจุบันศาลาสี่สมเด็จทำหน้าที่เป็น “หอกลอง” ของวัด ภายในประดิษฐาน “กลองยาวโบราณ” ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ (ยาวราว 5.32 เมตร ทำจากไม้ประดู่ท่อนเดียว) ซึ่งปรากฏในรายงานข่าวสมัยใหม่และสื่อเผยแพร่หลายแหล่ง โดยมีคำบอกเล่าว่าเป็นกลองที่นำมาถวายวัดภายหลังการปราบจลาจลเงี้ยวในภาคเหนือราว พ.ศ. ๒๔๔๖ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นบันทึกเชิงสื่อร่วมสมัย จึงควรอ้างอิงร่วมกับข้อมูลจากวัดเมื่อใช้อธิบายในเชิงวิชาการ
สถานะทางโบราณสถาน
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามทั้งวัดอยู่ในบัญชีโบราณสถานของรัฐ (ประกาศราชกิจจานุเบกษา) ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์–ศิลปกรรมขององค์ประกอบทั้งหมดในพื้นที่วัด รวมทั้งศาลาสี่สมเด็จด้วย (ศาลาเป็นองค์ประกอบในเขตโบราณสถานของวัด)
สรุปคุณค่าทางประวัติศาสตร์–ศิลปกรรม
-
เชิงประวัติศาสตร์: เป็นหลักฐาน “เครือข่ายอุปถัมภ์ของราชสกุล” ในโครงการสถาปนาวัดเบญจมบพิตรสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยพระราชทานนามและทรงร่วมทรัพย์กับ “สี่สมเด็จ” ซึ่งเป็นพระราชวงศ์ชั้นเจ้าฟ้าร่วมพระราชชนนี แสดงพลังการรวมศูนย์อุปถัมภ์ด้านพุทธศาสนาในยุคปฏิรูปสยาม
-
เชิงสัญลักษณ์: ตราหน้าบันทั้งสี่ด้านทำหน้าที่ “จารึกอัตลักษณ์ผู้อุปถัมภ์” ลงบนสถาปัตยกรรม สื่อความหมายเชิงบุญกิริยาร่วมสมัย และเป็นสื่อสร้างความทรงจำสาธารณะในบริบทวัดหลวง
-
เชิงสถาปัตยกรรม: ศาลาจตุรมุขพร้อมเครื่องยอดและชิ้นส่วนประดับไทยประเพณี สะท้อนความงามแบบสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่ประสานวัสดุ/เทคโนโลยีสมัยใหม่กับขนบไทยอย่างวิจิตร เป็น “คู่สมดุล” กับองค์ประกอบสำคัญอื่น ๆ ในวัด เช่น พระอุโบสถหินอ่อน
บรรณานุกรม
-
กรมศิลปากร. (ม.ป.ป.). ประวัติวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม (ฐานข้อมูลหอสมุด). สืบค้นจากเว็บไซต์กรมศิลปากร. (finearts.go.th)
-
Thailand Tourism Directory (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา). (ม.ป.ป.). วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร (ระบุปีสร้างศาลาสี่สมเด็จและบทบาทการใช้งาน). (thailandtourismdirectory.go.th)
-
วิกิพีเดียภาษาไทย. (ปรับปรุงต่อเนื่อง). วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร (ส่วน “ศาลาสี่สมเด็จ” และตราหน้าบันทั้งสี่). ใช้เพื่อเทียบเคียงรายพระนามและตราประจำพระองค์. (Wikipedia)
-
เด็กดี (สารคดีท้องถิ่น/บันทึกเชิงสาธารณะ). (ม.ป.ป.). ศาลาสี่สมเด็จและกลองยาววัดเบญจมบพิตร (รายละเอียดสถาปัตยกรรมและกลองยาว – ใช้เป็นข้อมูลประกอบร่วมกับแหล่งหลัก). (writer.dek-d.com)
-
MGR Online. (ม.ป.ป.). “ก้องกังสดาล…กลองหลวง” วัดเบญจมบพิตร (รายงานเชิงข่าวเกี่ยวกับกลองยาว/หอกลองของวัด). (Manager Online)
-
ราชกิจจานุเบกษา. (2544). เอกสาร/ผังประกอบการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม. (ratchakitcha.soc.go.th)
-
Read The Cloud. (2567). พระที่นั่งทรงผนวชของรัชกาลที่ 5 ณ วัดเบญจมบพิตร (บริบทการสถาปนาวัดใน พ.ศ. 2442–2443). (The Cloud)
หมายเหตุเชิงระเบียบวิธี: สำหรับงานวิชาการเชิงลึก แนะนำให้ตรวจสอบ “เอกสารปฐมภูมิ” ของวัด/กรมศิลปากร (เช่น ชุด ประมวลเอกสารสำคัญเนื่องในการสถาปนาวัดเบญจมบพิตร ซึ่งเก็บที่ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา) เพื่อยืนยันรายละเอียดปลีกย่อยด้านปีเดือนการก่อสร้าง รายการทรัพย์ปัจจัย และหลักฐานการพระราชทานนามศาลา. (digital.library.tu.ac.th)